3 ความคุ้มครองเพื่อปกป้องลูกน้อยวัยซน

27/03/2014 10:04

เกร็ดความรู้ดีๆจาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!

300x200

สิ่งที่ผู้เป็นพ่อแม่กังวลมากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องลูก โดยพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง มีอนาคตทางการศึกษาที่ดี มีอาชีพการงานที่มั่นคง แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ ลูกที่คุณรักจะสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้หรือไม่ หรือหากลูกเกิดเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ จนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล เงินที่เก็บสะสมไว้จะเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหรือไม่ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเพื่อลูกที่คุณรักจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทางเลือกหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับลูกและครอบครัวของคุณได้ คือ การทำประกันให้กับลูกที่คุณรัก สำหรับแบบประกันสำคัญที่พ่อแม่ควรทำให้ลูก ได้แก่

1.ประกันอุบัติเหตุ

คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเคยลองนับกันบ้างหรือไม่ว่าในวันหนึ่งๆ ต้องเกิดอาการใจหายใจคว่ำกับความอยากรู้อยากลอง หรือความซุกซนของลูกน้อยมากน้อยแค่ไหน เพราะเด็กเล็กๆ จะมีความต้องการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว เห็นอะไรก็อยากหยิบจับ อยากดู อยากเล่น ยิ่งลูกน้อยเริ่มเดินได้คล่อง ความซุกซนอยากวิ่งเล่นยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งความอยากรู้อยากลอง หรือความซุกซนนี้เองที่ส่งผลให้อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ จนถึงอุบัติเหตุร้ายแรงมีโอกาสเกิดขึ้นกับลูกน้อยวัยซนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ลื่นล้ม หัวโน แผลฟกช้ำ ปากแตก ไฟดูด เป็นต้น ซึ่งไม่เพียงแต่ยาสามัญประจำบ้านที่คุณพ่อคุณแม่ควรมีติดบ้าน หรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบ แต่ควรต้องมีการเตรียมเงินไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะมีโอกาสสูงที่ลูกน้อยจะประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยคุณพ่อคุณแม่อาจกันเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของลูกที่อาจเกิด หรือซื้อประกันอุบัติเหตุ การซื้อประกันอุบัติเหตุมิได้เป็นการป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้น แต่เป็นลดหรือบรรเทาค่าใช้จ่ายของครอบครัว โดยบริษัทประกันจะเข้ามารับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลเมื่อลูกเกิดอุบัติเหตุ หรือจ่ายค่าทดแทนในกรณีที่ลูกต้องสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต ซึ่งการทำประกันอุบัติเหตุให้กับลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อประกันอุบัติเหตุแบบเดี่ยวรายบุคคลให้ลูก หรือซื้อแบบครอบครัวที่คุ้มครองทั้งตัวคุณพ่อคุณแม่เอง และคุ้มครองลูกด้วย
2.ประกันสุขภาพ
ทราบหรือไม่ว่า เด็กเล็กๆ มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายเนื่องจากความต้านทานโรคของร่ายกายยังไม่แข็งแรงนัก โดยโรคที่มักเกิดขึ้นกับเด็ก เช่น ไข้เลือดออก ปอดบวม อาหารเป็นพิษ ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด การติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็มิใช่ถูกๆ หากเงินที่เก็บออมไว้ไม่เพียงพอ อาจเป็นปัญหาหรือสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวได้ แนวทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้คือ การทำประกันสุขภาพให้กับลูกรัก ที่เสมือนเป็นการออมเงินส่วนน้อยในวันนี้ เพื่อเป็นเงินก้อนใหญ่เตรียมไว้ใช้ในการรักษาพยาบาลให้ลูกของคุณเมื่อยามเจ็บป่วย โดยประกันสุขภาพเป็นการรับประกันปีต่อปี และจ่ายเงินค่าชดเชยเท่ากับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินวงเงินคุ้มครองที่ซื้อไว้ และอัตราเบี้ยประกันสุขภาพแต่ละปีจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุของลูกหรือผู้เอาประกันที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มีข้อแนะนำในการซื้อประกันสุขภาพให้ลูกรัก โดยหากคุณเป็นข้าราชการ หรือพนักงานบริษัทที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมถึงลูก ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อประกันสุขภาพทั้งหมด แนะนำให้เลือกซื้อประกันเฉพาะส่วนที่ไม่ได้รับความคุ้มครองจากสวัสดิการที่ได้รับ เช่น ซื้อประกันคุ้มครองการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง หรือคุ้มครองการทุพพลภาพ เป็นต้น แต่หากคุณไม่มีสวัสดิการที่ครอบคลุมถึงลูก แนะนำว่าประกันสุขภาพสำหรับลูกเป็นสิ่งจำเป็น
 
3.ประกันเพื่อการศึกษา

คุณพ่อคุณแม่ย่อมคาดหวังให้ลูกมีอนาคตทางการศึกษาที่ดีเพื่อความก้าวหน้าของชีวิต แต่การที่ลูกจะได้รับการศึกษาที่ดีตามที่คาดหวังไว้นั้น ย่อมเกิดจากความพร้อมด้านการเงิน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษาก็มิใช่จำนวนเงินน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน (ค่าเทอม) ค่าชุดนักเรียน ค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียน ค่าเดินทาง และต้องไม่ลืมว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อทุกปี ดังนั้น การเก็บออมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาของลูกจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยแนวทางหนึ่งของการออมเงินเพื่อการศึกษาของลูกคือ ออมผ่านประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ โดยลูกเป็นผู้รับประโยชน์ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันกับคุณ ลูกจะได้รับเงินเอาประกันเพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาในอนาคต หรือประกันการศึกษา โดยลูกเป็นผู้เอาประกัน ประกันประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่บริษัทประกันจะกำหนดจำนวนเงินจ่ายคืนในแต่ละปีตามอายุของลูกเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนในแต่ละระดับการศึกษา รวมถึงให้ความคุ้มครองในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครอง เกิดทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือเสียชีวิต กรมธรรม์ยังคงมีผลบังคับดังเดิมโดยลูกไม่ต้องชำระค่าเบี้ยประกันอีก จะเห็นได้ว่า การทำประกันเป็นการออมเงินที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกที่คุณรักจะได้รับการศึกษาเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้

เมื่ออนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน การทำประกันจึงนับว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะอย่างน้อยก็ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ว่า หากวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับตัวคุณแล้ว ประกันเพื่อการศึกษาจะช่วยทำให้ลูกรักมีอนาคตทางการศึกษาที่แน่นอน หรือหากลูกเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ จะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นได้
ที่มา : k-expert.askkbank.com